02 149 5555 ถึง 60

 

รับมือโควิดด้วยสมุนไพรสไตล์อภัยภูเบศร (ตอนที่1)

HERBAL GUIDE FOR COVID-19 รับมือโควิดด้วยสมุนไพรสไตล์อภัยภูเบศร (ตอนที่1)

HOT ISSUE เรื่องโดย... ศิริกร โพธิจักร

ชีวจิต มองเห็นว่า ประเทศไทยเรามีจุดเด่นคือสมุนไพรใกล้ตัวอยู่มากมาย ดังนั้นการนำสมุนไพรมาใช้ดูแลสุขภาพจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนไทยทุกคนควรรู้ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในยุคโควิดระบาด

เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบข้อมูลการใช้สมุนไพรที่ถูกต้อง ปักษ์นี้เราจึงเชิญ ดอกเตอร์ เภสัชกรหญิงผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มาให้คำแนะนำในการใช้สมุนไพรรับมือโควิดทั้ง 3 ระยะ คือ ก่อนติดเชื้อ ติดเชื้อแล้ว และช่วงฟื้นฟูสุขภาพหลังหายป่วย

ติดตามรายละเอียดได้เลยค่ะ

FOCUS ON DELTA VARIANT ปรับตัวเปลี่ยนวิธีรับมือกับสายพันธุ์เดลต้า

ดอกเตอร์ เภสัชกรหญิงผกากรองอธิบาย สายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อินเดียซึ่งมีการระบาดสูงสุด ณ ขณะนี้ มีการแสดงอาการที่แตกต่างจากสายพันธุ์อัลฟาหรือสายพันธุ์อังกฤษ ดังนั้นประชาชนจึงควรจะทราบเพื่อจะได้เฝ้าสังเกตอาการได้ถูกต้อง

“อาการของสายพันธุ์เดลต้าจะมีอาการคล้ายหวัดธรรมดา ไม่ค่อยสูญเสียการรับรส มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดศีรษะ ขณะที่สายพันธุ์อังกฤษหรือสายพันธุ์อัลฟามีไข้ ปวดเมื่อย ไอ เจ็บคอ ปวดหัว หนาวสั่น มีน้ำมูกอาเจียน ท้องเสีย และการรับรสหรือได้กลิ่นผิดปกติ”

“เมื่ออาการของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าเหมือนไข้หวัดธรรมดา จึงทำให้คนไข้ไม่รู้ตัว ทำตัวตามปกติ ออกไปไหมมาไหนหรืออาจจะไม่เคร่งครัดกับการสวบหน้ากากอนามัย ล้างมือ หรือการเว้นระยะห่างเท่าที่ควร เป็นเหตุให้เกิดการระบาดมากขึ้นได้”

นอกจากนี้ธรรมชาติของสายพันธุ์เดลต้ามีความสามารถในการแพร่กระจายและมีชิวิตอยู่ในอากาศได้นานกว่าสายพันธุ์อื่นจึงเป็นปัจจัยที่ประกอบกันทำให้สายพันธุ์นี้กลายเป็นสายพันธุ์ที่มีการระบาดสูงสุดในระดับโลก

ดอกเตอร์ เภสัชกรหญิงผกากรองระบุว่า เมื่อทราบดังนี้แล้วจึงจะขอความร่วมมือให้ทุกๆ คนช่วยสังเกตอาการของตนเอง แม้มีอาการใกล้เคียงกับไข้หวัด แต่ถ้ารู้ว่าเริ่มไม่สบายก็ต้องรีบพักผ่อน แยกตัว และถ้ายังมีอาการไม่มากก็สามารถนำสมุนไพรมาใช้ดูแลสุขภาพให้ต่อเนื่อง

ถ้าดูแลสุขภาพได้เช่นนี้แล้วก็จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้

FOR PREVENTOIN & GREEN GROUP PATIENT ใช้ก่อนป่วยและรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวได้

ดอกเตอร์ เภสัชกรหญิงผกากรองอธิบายว่า จากประสบการณ์การรับดูแลผู้ป่วยที่กักตัวอยู่ที่บ้านของตนเองหรือผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว พบว่า การใช้สมุนไพรดูแลสุขภาพกลุ่มนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการมากจนกลายเป็นกลุ่มสีเหลืองและแดง การใช้สมุนไพรจะไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร

“สิ่งที่เราต้องจำให้ขึ้นใจเลยคือ สมุนไพรจะมีประโยชน์มากๆ ใน 2 ระยะ ได้แก่ ระยะก่อนติดเชื้อ เพราะสมุนไพรมีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ แต่ต้องทำควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ”

“ระยะติดเชื้อในช่วงแรกหรือกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว สมุนไพรมีส่วนช่วยหยุดการแบ่งตัวของไวรัส ช่วยให้ภูมิคุ้มกันกลับมาสู้เชื้อโรคได้อีกครั้ง”

“ถ้าเราทำได้แบบนี้ คนไข้กลุ่มสีเขียวจะมีอาการดีขึ้นเร็ว เขาจะไม่เปลี่ยนไปสู้กลุ่มสีเหลืองและแดง ซึ่งจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบรักษาพยาบาลที่ต้องใช้ทั้งยากำจัดไวรัสและอุปกรณ์ช่วยหายใจ รวมถึงต้องมีบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยดูแลต่อเนื่อง”

TOMYAM HERBS FORMULA สูตรยารมไอน้ำประยุกต์

ดอกเตอร์ เภสัชกรหญิงผกากรองระบุว่า เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้าทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการคล้ายหวัด ดังนั้น ขอแนะนำให้กินอาหารที่มีสมุนไพรเครื่องต้มยำซึ่งประกอบด้วยหอมเล็ก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เพราะเครื่องเทศเหล่านี้จะช่วยทำให้ทางเดินหายใจโล่ง ลดน้ำมูกและเสมหะ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี โดยจะนำไปปรุงเป็นต้มยำหรือนำไปนึ่งปลาก็ได้

นอกจากนี้ยังสามารถนำสมุนไพรเครื่องต้มยำ ยกเว้นพริก หั่นเป็นท่อนๆ ใส่ใจชาม ใส่ขิงลงไป เติมน้ำร้อนให้ท่วม เอาผ้าขนหนูคลุมแล้วสูดไอน้ำเข้าไปช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง ช่วยขับน้ำมูกและเสมหะออก

กรณีที่ยังไม่ติดเชื้อ อาจทำวันละครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที กรณีผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีความไวต่ออุณหภูมิ ไม้ต้องทำต่อเนื่อง แต่ให้รมไอน้ำสัก 3 นาทีแล้วพัก จากนั้นไปรมไอน้ำใหม่ ทำแบบนี้ 3-5 ครั้งจรครบเวลาก็เพียงพอ

มีข้อควรระวังในกรณีผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและงดใช้ขณะที่มีไข้ ถ้าจะใช้ต้องรอให้ไข้ลดก่อน

IMMUNITY BOOSTERสูตรยา “เพิ่มภูมิ” ต้านโควิด

สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรดอก แจกสูตรยาตำรับ “เพิ่มภูมิ” ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย โดยมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระลดกลไกการอักเสบ และมีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของปอดอีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ แก้น้ำลายเหนียว แก้คอแห้ง ทำให้ชุ่มคอ แก้เจ็บคอ

ส่วนประกอบ มะขามป้อม 20 กรัม, ขมิ้นชัดสด 10 กรัม, มะนาวดอง 2 ล๔ก, ใบหูเสือ 20 กรัม, ใบหม่อนแห้ง 10 กรัม, ชะเอมเทศ 10 กรัม, มะขามเปียก 20 กรัม

วิธีทำ ใส่สมุนไพรทั้งหมดลงในหม้อต้ม เติมน้ำ 3 ลิตร ต้มให้เดือด แล้วต้มต่อไปอีก 15 นาที ปรุงรสด้วยน้ำผึ้งและเกลือเล็กน้อย

วิธีกิน ดื่มอุ่นๆ ครั้งละ 1 แก้วกาแฟ ก่อนอาหาร 3 เวลา เช้า-กลางวัน-เย็น ทั้งนี้ที่มีการทพะงานของตับและไตผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเกิน

นิตยสารชีวจิต ปีที่ 23 ฉบับที่ 551 เดือนกันยายน 2564

(อ่านต่อตอนต่อไป)

28 September 2564

By STY/Lib

Views, 759

 

Preset Colors